ค่าชดเชยการเลิกจ้าง: คุณสมบัติและการคำนวณ คือข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้เจ้าของธุรกิจและพนักงานทุกระดับพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลง พร้อมหรือไม่กับข้อกฎหมายใหม่ที่มีผลบังคับปี 2568 การรู้สิทธิและวิธีคำนวณอย่างถูกต้องทำให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ และลดความเสี่ยงจากการเสียสิทธิ
ผลสำรวจปีล่าสุดพบว่าเกือบ 40% ของพนักงานไทยไม่มั่นใจว่าตนเองมีสิทธิค่าชดเชยหรือไม่ การทำความเข้าใจขั้นตอนและหลักการคำนวณที่ตรงตามข้อกฎหมาย จะช่วยให้ทุกฝ่ายประเมินสถานการณ์จริงและเตรียมเอกสารครบถ้วน

บทความนี้สรุปให้ชัดเจน ตั้งแต่คุณสมบัติ วิธีคิดตัวเลข ไปจนถึงขั้นตอนยื่นร้องเรียน และสิทธิพิเศษในกรณีต่างๆ เพื่อให้คุณปรับตัวอย่างมืออาชีพในทุกสถานการณ์เลิกจ้าง
สาระสำคัญ
- สิทธิค่าชดเชยเริ่มต้นที่ทำงานต่อเนื่อง 120 วัน โดย ต้องไม่ได้เลิกจ้างเพราะความผิดร้ายแรง เช่น ทุจริตหรือฝ่าฝืนระเบียบซ้ำซาก
- ตารางอัตราค่าชดเชยปี 2025 ระบุขั้นต่ำ: 30 วันสำหรับอายุงาน 120 วันถึง 1 ปี และสูงสุด 400 วันสำหรับอายุงาน 20 ปีขึ้นไป
- สูตรคำนวณเงินชดเชย ใช้ (เงินเดือนสุดท้าย ÷ 30) x จำนวนวันสิทธิ โดยรวมเงินเดือน ค่าล่วงเวลา และค่าคอมมิชชั่นที่จ่ายประจำ
- เอกสารสำคัญสำหรับขอค่าชดเชย ได้แก่ สัญญาจ้าง สลิปเงินเดือน 3-6 เดือน และหนังสือรับรองการทำงาน เตรียมให้ครบก่อนดำเนินการ
- ยื่นร้องเรียนที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานภายใน 60 วัน หากนายจ้างไม่จ่ายค่าชดเชยภายในวันเลิกจ้าง เพื่อปกป้องสิทธิ์ตามกฎหมาย
- เลิกจ้างไม่เป็นธรรมอาจได้รับค่าสินไหมเพิ่มเติม หากศาลแรงงานพิจารณาว่าเลิกจ้างไม่ถูกต้อง นอกจากค่าชดเชยปกติ
- เงินชดเชยส่วนใหญ่มักได้รับการยกเว้นภาษี แต่ หากเกินวงเงินที่กำหนด อาจต้องเสียภาษีบางส่วน แนะนำตรวจสอบข้อกำหนดจากกรมสรรพากร
- พนักงานทดลองงานที่ทำงานครบ 120 วัน มีสิทธิเทียบเท่าพนักงานประจำในการรับค่าชดเชย เลิกจ้างไม่ครบ 120 วัน ไม่มีสิทธิ
สารบัญ
คุณสมบัติผู้มีสิทธิรับค่าชดเชย
อัตราค่าชดเชยตามอายุงาน
วิธีคำนวณค่าชดเชยแบบละเอียด
การขอรับค่าชดเชย
ค่าชดเชยกรณีเลิกจ้างพิเศษ
FAQ: ค่าชดเชยการเลิกจ้าง
บทสรุป
คุณสมบัติผู้มีสิทธิรับค่าชดเชย
เกณฑ์การได้รับสิทธิ
ผู้มีสิทธิได้รับค่าชดเชยการเลิกจ้างตามกฎหมายไทย ต้องทำงานกับนายจ้างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 120 วัน และไม่ได้เลิกจ้างด้วยความผิดร้ายแรง
สถานการณ์ที่มีสิทธิรับค่าชดเชย เช่น
- ถูกเลิกจ้างจากการปรับโครงสร้าง
- ถูกเลิกจ้างเนื่องจากลดจำนวนพนักงาน
- ถูกเลิกจ้างทั่วไปที่ไม่ใช่ผลจากความผิดร้ายแรง
ตัวอย่างที่ไม่มีสิทธิ
- ลาออกเอง
- ถูกไล่ออกจากความผิดร้ายแรง เช่น ทุจริต ละทิ้งหน้าที่ 3 วัน หรือฝ่าฝืนระเบียบซ้ำซากหลังตักเตือน
ข้อยกเว้นและเหตุผลตัดสิทธิ
ข้อยกเว้นสำคัญที่ลูกจ้างจะไม่ได้รับค่าชดเชย ได้แก่
- ลาออกโดยสมัครใจ
- ถูกเลิกจ้างจากการกระทำผิดร้ายแรง
ประเภทการเลิกจ้าง
- การเลิกจ้างธรรมดา: มีสิทธิ์ตามกฎหมาย
- การเลิกจ้างไม่เป็นธรรม: อาจได้รับค่าสินไหมเพิ่มตามคำสั่งศาลแรงงาน
ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมจาก กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
การตรวจสอบสิทธิและข้อยกเว้นเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะทำให้ทุกการเปลี่ยนแปลงในที่ทำงานเป็นไปอย่างโปร่งใสและยุติธรรม
อัตราค่าชดเชยตามอายุงาน
ตารางอัตราและวิธีอ่าน
อัตราค่าชดเชยการเลิกจ้างในปี 2025 กำหนดตามอายุงาน โดยใช้ “ค่าจ้างอัตราสุดท้าย” หรือเงินเดือนสุดท้ายก่อนเลิกจ้างเป็นเกณฑ์สำหรับคำนวณ
กรุณาใช้ตารางนี้เพื่อดูสิทธิขั้นต่ำของคุณ
- ทำงานไม่ถึง 120 วัน: ไม่มีสิทธิได้รับค่าชดเชย
- 120 วันแต่ไม่ถึง 1 ปี: 30 วันของค่าจ้างอัตราสุดท้าย
- 1 ปีแต่ไม่ถึง 3 ปี: 90 วัน
- 3 ปีแต่ไม่ถึง 6 ปี: 180 วัน
- 6 ปีแต่ไม่ถึง 10 ปี: 240 วัน
- 10 ปีแต่ไม่ถึง 20 ปี: 300 วัน
- 20 ปีขึ้นไป: 400 วัน
ตัวอย่าง: พนักงานที่ทำงาน 7 ปี มีเงินเดือน 20,000 บาท จะได้รับค่าชดเชย 160,000 บาท (20,000 ÷ 30 x 240)
อายุงานกี่ปี ได้เท่าไหร่?
การนับอายุงานรวมวันหยุดประจำปี วันลาป่วย และวันหยุดราชการอย่างเป็นทางการด้วย
สำหรับงานพาร์ทไทม์หรือทำงานไม่ครบทุกวัน สามารถใช้ระยะเวลาการทำงานจริงรวมต่อเนื่องนับสิทธิได้
หากต้องการข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการนับอายุงานในรูปแบบต่างๆ สามารถดูที่ สำนักงานประกันสังคม และเอกสารแนะนำจากภาครัฐ
ดึงความมั่นใจว่าตารางนี้ช่วยให้ทุกการตัดสินใจคำนวณสิทธิของคุณได้อย่างถูกต้องและโปร่งใส มือใหม่ก็สามารถตรวจสอบค่าชดเชยของตนเองได้ทันที
วิธีคำนวณค่าชดเชยแบบละเอียด
ขั้นตอนและสูตรคำนวณ
การคำนวณค่าชดเชยการเลิกจ้างให้เริ่มจากสูตรมาตรฐาน:
- เงินเดือนสุดท้าย ÷ 30 วัน x จำนวนวันสิทธิชดเชยตามอายุงาน
องค์ประกอบเงินเดือนที่สามารถนำมาคำนวณ ได้แก่
- เงินเดือนพื้นฐาน
- ค่าล่วงเวลาที่จ่ายประจำ
- ค่าคอมมิชชันจ่ายประจำ
- เงินประจำตำแหน่ง
- ค่าครองชีพ
รายการที่มักไม่รวม คือ
- โบนัส
- เงินพิเศษ
- ค่าเบี้ยขยัน
- สวัสดิการที่ไม่ใช่ตัวเงิน
ตัวอย่างสถานการณ์: หากพนักงานทำงานครบ 10 ปี เงินเดือนสุดท้าย 30,000 บาท จะได้รับค่าชดเชย 1,000 บาท/วัน x 300 วัน รวม 300,000 บาท
กรณีซับซ้อน: รายได้เสริมหรือไม่ประจำ
หากมีรายได้เสริม เช่น ค่าคอมมิชชันหรือรับรายวัน ให้นำรายได้เฉลี่ย 12 เดือนสุดท้ายมาคำนวณแทนเงินเดือน
- ตัวอย่าง: รายได้รวม 240,000 บาทใน 12 เดือน (เฉลี่ย 20,000 บาท/เดือน) ใช้วิธีคิดแบบเดียวกันในการแบ่งต่อวันแล้วคูณวันสิทธิชดเชย
เคสพนักงานรับค่าคอมมิชชันประจำทุกเดือน สามารถใช้ค่าคอมมิชชันเฉลี่ยเป็นส่วนหนึ่งของเงินเดือนสุดท้ายได้
ค่าชดเชยการเลิกจ้าง: คุณสมบัติและการคำนวณถูกออกแบบเพื่อความเที่ยงตรงและโปร่งใส ยึดตามมาตรฐานกฎหมาย ลูกจ้างควรเก็บหลักฐานเงินเดือนและรายได้ทุกช่องทางอย่างครบถ้วน บันทึกนี้ช่วยให้คำนวณเงินชดเชยได้อย่างมั่นใจและตรวจสอบถูกต้องในทุกกรณี
การขอรับค่าชดเชย
เอกสารและหลักฐานที่ต้องใช้
การเตรียมเอกสารครบถ้วนคือจุดเริ่มสำคัญสำหรับการขอค่าชดเชยการเลิกจ้างตามสิทธิ์ปี 2568
ควรเตรียมเอกสารเหล่านี้ไว้ล่วงหน้า:
- สัญญาจ้างงานหรือหนังสือรับรองการทำงาน
- สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3-6 เดือน
- รายการเดินบัญชีหรือบัญชีสรุปการทำงานจากนายจ้าง
- บันทึกหรืออีเมลเกี่ยวกับการเลิกจ้าง
กรณีเกิดข้อพิพาทกับนายจ้าง ควรรวบรวมหลักฐานการติดต่อ เช่น ข้อความอีเมลหรือจดหมายตอบกลับ
วิธียื่นเรื่องและกรณีนายจ้างไม่จ่าย
หากนายจ้างไม่จ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย ดำเนินการดังนี้
- แจ้งเหตุผลกับนายจ้างโดยตรงและขอคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร
- กรอกแบบฟอร์มร้องเรียนต่อกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
- หากตกลงไม่ได้ มีสิทธิยื่นฟ้องศาลแรงงานเพื่อขอรับค่าชดเชย
ในปี 2568 ข้อกำหนดให้นายจ้างจ่ายเงินค่าชดเชยไม่เกินวันเลิกจ้าง หากไม่ได้รับเงินตามกำหนด ให้ดำเนินการภายใน 60 วันเพื่อป้องกันสิทธิขาดอายุความ
หากเตรียมพร้อมตามรายการนี้ คุณจะสามารถรักษาสิทธิและปกป้องผลประโยชน์ของตนเองในทุกขั้นตอน
ค่าชดเชยกรณีเลิกจ้างพิเศษ
เลิกจ้างไม่เป็นธรรม: สิทธิพิเศษ
หากถูกเลิกจ้างโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร หรือไม่เป็นไปตามกระบวนการที่กฎหมายแรงงานระบุ ลูกจ้างอาจถือว่าเป็น “เลิกจ้างไม่เป็นธรรม” ตามมาตรา 49 พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน
ตัวอย่างเคสที่มักพบ เช่น เลิกจ้างโดยไม่แจ้งล่วงหน้า, เลิกจ้างโดยเลือกปฏิบัติ หรือโดยไม่มีหลักฐานสนับสนุน
สิทธิที่ลูกจ้างได้รับอาจครอบคลุม
- ค่าชดเชยปกติตามอายุงาน
- สินไหมทดแทนเพิ่มเติมกรณีศาลแรงงานตัดสินเห็นว่าถูกเลิกจ้างไม่เป็นธรรม
- ในบางกรณีศาลอาจสั่งจ่ายค่าพักงานย้อนหลัง หรือให้กลับเข้าทำงาน
สถานการณ์พิเศษ: ปิดกิจการ ย้ายงาน ปรับโครงสร้าง
ในกรณีที่บริษัทปิดกิจการ ถูกรวมกิจการ หรือปรับโครงสร้างครั้งสำคัญ ลูกจ้างอาจมีสิทธิได้รับ “ค่าชดเชยพิเศษ”
สถานการณ์ที่เข้าเกณฑ์ เช่น
- การย้ายสถานประกอบการที่ส่งผลให้ออกเดินทางหรือย้ายถิ่นฐาน
- ปิดกิจการชั่วคราวหรือถาวร
- การเปลี่ยนแปลงขนาดองค์กรหรือปรับเทคโนโลยี
วิธีตรวจสอบสิทธิ
- ตรวจสอบประกาศและคำแจ้งเตือนจากนายจ้าง
- เปรียบเทียบสิทธิจากสัญญาจ้างและกฎหมาย
การรู้จักสิทธิในกรณีเลิกจ้างไม่เป็นธรรมและสถานการณ์พิเศษ เปิดโอกาสให้ลูกจ้างเรียกร้องค่าชดเชยอย่างเหมาะสมและลดความเสี่ยงจากการเสียสิทธิ์ในภายหลัง
FAQ: ค่าชดเชยการเลิกจ้าง
ระยะเวลาการจ่ายค่าชดเชยหลังเลิกจ้างสำคัญมาก กฎหมายกำหนดให้นายจ้างต้องจ่าย “ทันทีในวันเลิกจ้าง” หากไม่มีกรณีพิเศษ
ระยะเวลารอเงินและสิทธิทดลองงาน
ตัวอย่างสถานการณ์:
- หากนายจ้างไม่จ่ายค่าชดเชยในวันสิ้นสุดการทำงาน พนักงานสามารถ
- แจ้งนายจ้างโดยตรงเป็นลายลักษณ์อักษร
- ยื่นร้องเรียนที่สำนักงานแรงงานในพื้นที่
- ขอคำปรึกษาหรือดำเนินการฟ้องศาลแรงงานในกรณีที่ไม่ตกลงกัน
พนักงานทดลองงานไม่มีสิทธิรับค่าชดเชย หากทำงานไม่ครบ 120 วันตามกฎหมาย หากครบ 120 วันต่อเนื่องและถูกเลิกจ้างโดยไม่มีความผิดร้ายแรง จะมีสิทธิได้รับค่าชดเชยเหมือนพนักงานปกติ
ภาษีเงินชดเชยและข้อควรรู้
เงินชดเชยส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ได้รับยกเว้นภาษีตามระเบียบกรมสรรพากร แต่หากเกินวงเงินกำหนด อาจต้องเสียภาษีบางส่วน (รายละเอียดเพิ่มเติม)
สถานการณ์ที่พบบ่อย:
- เงินชดเชยต่ำกว่ากฎหมาย ให้เก็บหลักฐานชัดเจน และเร่งดำเนินการภายใน 60 วันหลังเลิกจ้าง
- “ค่าชดเชยหลังเลิกจ้างควรได้รับเต็มสิทธิ หากนายจ้างจ่ายไม่ครบ ให้ใช้ช่องทางร้องเรียนของรัฐโดยเร็ว”
- “ผู้ทดลองงานที่อยู่ต่อเนื่องเกิน 120 วัน ถือว่ามีสิทธิ์รับค่าชดเชยเท่ากับพนักงานประจำ”
การรู้ขั้นตอนและสิทธิที่ชัดเจน คือกุญแจสำคัญให้ทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรมและมั่นใจในกระบวนการ
บทสรุป
รู้สิทธิการได้รับค่าชดเชยที่ชัดเจนทำให้คุณมีอำนาจต่อรองที่แท้จริง และปกป้องผลประโยชน์เมื่อต้องเผชิญสถานการณ์เลิกจ้าง
ตรวจสอบคุณสมบัติ เก็บรวบรวมหลักฐานครบถ้วน พร้อมดำเนินขั้นตอนตามกฎหมายทันทีที่จำเป็น เพื่อรักษาสิทธิอย่างเต็มที่
อย่าปล่อยให้ความไม่แน่ใจกลายเป็นอุปสรรค หากคุณต้องการคำแนะนำเชิงลึก วางแผนการคำนวณ หรือต้องการตัวช่วยดำเนินการนิติกรรม ติดต่อ Themis Partner เราพร้อมให้คุณมั่นใจทุกขั้นตอนและรับมือได้อย่างมืออาชีพ
